ผู้ว่าฯ สระแก้ว แถลงผลการรักษาผู้ป่วยโควิด 2 รายแรก เตรียมจำหน่ายกลับบ้าน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ 2 รายแรก อาการทั่วไปปกติ ไม่รุนแรง ไม่มีโรคแทรกซ้อน เตรียมจำหน่ายกลับไปพักฟื้นที่บ้าน 9 มกราคมนี้ ด้านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ชี้แจง 3 ประเด็นไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อจากที่อื่นเดินทางเข้าจังหวัดสระแก้ว
วันนี้ (8 มค. 63) เวลา 16.30 น. ที่ห้องประชุมสระแก้ว ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย น.พ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว และน.พ.สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ร่วมแถลงข่าวกรณีโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วจะจำหน่ายผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ 2 รายแรกว่า จังหวัดสระแก้วได้รับรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ 2 รายแรก เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นเพศชาย อายุ 33 ปี อาชีพไม่แน่ชัดเดินทางเข้าพักที่ตำบลวังทอง อำเภอวังสมบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563 มีประวัติไปบ่อนการพนันหลายแห่งทั้งเมืองพัทยา อำเภอเมืองระยอง และ 3 อำเภอในจังหวัดจันทบุรี รวมทั้งมีประวัติสัมผัสญาติเพื่อนบ้านใกล้เคียงและไปร่วมงานศพที่วัดแห่งหนึ่งและร้านอาหารในเขตอำเภอวังน้ำเย็น รายที่ 2 เป็นเพศชาย อายุ 26 ปี อาชีพทำไร่ มีประวัติเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายแรกพัก อยู่ตำบลเดียวกันแต่คนละหมู่บ้านและเดินทางไปบ่อนด้วยกันใน 3 อำเภอของจังหวัดจันทบุรี ทั้งสองเข้ารับการตรวจหาเชื้อหลังจากทราบข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อที่บ่อนการพนันในจังหวัดจันทบุรี ผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ปัจจุบันผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วและอาการทั่วไปปกติ
ซึ่งแพทย์ได้ให้การรักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้กำหนดกรณีผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือโรคร่วมสำคัญ แนะนำให้นอนโรงพยาบาลอย่างน้อย 10 วัน นับแต่วันที่เริ่มมีอาการหรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น ให้พิจารณาจำหน่ายผู้ป่วยได้ ซึ่งผู้ป่วย 2 รายดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วจึงจะจำหน่ายผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นต่อที่บ้าน โดยยังให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ขอให้ชุมชนไม่ต้องกลัวเพราะไม่มีเชื้อโควิด-19 อยู่ในร่างกายแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ ซึ่งเขาจะมีภูมิต้านทานโรคนี้ได้ดีกว่าคนทั่วไปด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ 2 ราย จำนวน 155 ราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานไปยังสาธารณสุขอำเภอวังสมบูรณ์และโรงพยาบาลวังสมบูรณ์เพื่อตรวจหาเชื้อ ผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด ทั้งนี้ได้ขอให้กลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ปฏิบัติตามคำแนะนำในการปฏิบัติตนไม่ว่าจะเป็นสังเกตอาการตนเอง วัดอุณหภูมิร่างกายเช้าเย็น หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที รวมทั้งขอให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการเข้าแหล่งชุมชน ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ
น.พ.สุรสิทธิ์ จิตรพิทักษ์เลิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งสองรายของจังหวัดสระแก้วที่กำลังรักษาตัวอยู่ จัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ในทางปฏิบัติจะให้รักษาอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 10 วัน ซึ่งรายแรกจะครบกำหนดออกจากโรงพยาบาลวันพรุ่งนี้ (9 มกราคม 64) รายที่สองจะออกจากโรงพยาบาลในวันอาทิตย์ (10 มกราคม 64) ผู้ป่วยทั้งสองสามารถกลับไปพักฟื้นร่างกายและใช้ชีวิตได้ตามปกติ อยากให้สังคมยอมรับ ไม่อยากให้ตีตราว่าเป็นผู้ป่วย แต่จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เรื่องอาหารการกินภาชนะ แก้วน้ำ จะต้องแยกชุด
น.พ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยถึงกระแสข่าวโควิด-19 ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่พูดถึงผู้ติดเชื้อโควิดจากจังหวัดอื่นเดินทางเข้ามาจังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้ชุมชนตื่นตระหนก ว่า กรณีไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ เป็นเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ 3 เดือน เดินทางมาจาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมพ่อแม่และญาติ เมื่อวันที่ 31 ธค.63 มาพักที่บ้านวังรี ม.3 ต.ศาลาลำดวน และตอนเย็นมีการจัดเลี้ยงปีใหม่ที่บ้านพัก มีญาติมาร่วมงาน จำนวน 61 คน ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้านจังหวัดชลบุรีในวันที่ 1 มกราคม 2564 ต่อมาคืนวันที่ 2 มกราคม เด็กมีอาการชักเกร็ง ผู้ปกครองจึงนำส่งโรงพยาบาลบ้านบึง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ จึงตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลเป็นบวก ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
หลังได้รับแจ้ง กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองสระแก้ว ,ทีม CDCU อำเภอเมืองสระแก้ว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศาลาลำดวน และเทศบาลตำบลศาลาลำดวน ลงพื้นที่ดำเนินการสอบสวนโรค พบกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 11 ราย โดยได้เก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 ไปแล้ว 8 ราย ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 3 ราย แยกเป็นพ่อและแม่เด็กที่โรงพยาบาลบ้านบึง 2 ราย (ผลไม่พบเชื้อ) และโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ จังหวัดปทุมธานี 1 ราย (ผลไม่พบเชื้อ) โดยได้กักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในพื้นที่ 8 ราย พร้อมทั้งในคำแนะนำในการปฏิบัติตน โดยให้วัดอุณหภูมิและสังเกตอาการ หากพบอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่ำ จำนวน 52 ราย ให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง วัดไข้ทุกวัน หากมีอาการป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อรับการตรวจ และเก็บสิ่งส่งตรวจ ช่วงนี้ขอให้เลี่ยงเข้าไปในแหล่งชุมชน และขอให้สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ลดการสัมผัสโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลศาลาลำดวน และอบต.ศาลาลำดวน ได้ร่วมกันฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดพื้นที่บริเวณบ้านและจุดเสี่ยง ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT)และทีมสื่อสารความเสี่ยง ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เข้าไปให้ความรู้และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และเฝ้าระวังผู้สัมผัสเพิ่มเติม
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวต่อว่า กรณีที่ 2 ไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ รายที่ 4 ของจังหวัดสิงห์บุรี เพศชาย อายุ 30 ปี เดินทางมาทำงานที่จังหวัดสระแก้ว ระหว่างวันที่ 23-25 ธันวาคม 2563 และวันที่ 28 ธันวาคม 2563 โดยมีประวัติเกี่ยวเนื่องกับสนามชนไก่พื้นเมืองลำท่าแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ก่อนที่จะมีอาการป่วยและเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีและผลยืนยันพบเชื้อ COVID-19 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2563 ปัจจุบันเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี หลังได้รับแจ้ง เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564 เวลา 19.30 น. กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานไปยังงานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองสระแก้ว ,ทีม CDCU อำเภอเมืองสระแก้ว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และทีมเทศบาลตำบลท่าเกษม ลงพื้นที่ดำเนินการสอบสวนโรคจนแล้วเสร็จ
จากการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ที่ประกอบอาหารกินเลี้ยงสังสรรค์ร่วมกัน จำนวน 8 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจำนวนหนึ่ง โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้เก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 ไปแล้ว ไม่พบเชื้อ 6 ราย รอผล 2 ราย ทั้งนี้ได้ดำเนินการกักตัวในพื้นที่ จำนวน 2 ราย (ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 11 มกราคม 2564) พร้อมทั้งในคำแนะนำในการปฏิบัติตนในการกักตัว โดยมีการวัดอุณหภูมิ และสังเกตอาการ หากพบอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลท่าเกษม ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในบ้านพัก และบริเวณรอบบ้านรอบพัก สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่ำ ได้ให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง วัดไข้ทุกวัน หากมีอาการป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อรับการตรวจ และเก็บสิ่งส่งตรวจ ช่วงนี้ขอให้เลี่ยงเข้าไปในแหล่งชุมชน และขอให้สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ลดการสัมผัสโดยไม่จำเป็น ซึ่งรายละเอียดคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
กรณีสุดท้ายที่ประชาชนให้ความสนใจ มีรายงานผู้สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน เป็นเพศชายอายุ 40 ปี อาชีพ พนักงานส่งสินค้า สนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยรถยนต์ส่วนตัว ได้แวะปั๊๊ม PTT พนมสารคาม และกลับมาที่บ้านที่ หมู่ 8 บ้านแหลมทอง ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ในระหว่างอยู่ในพื้นที่ (วันที่ 1-2 มกราคม2564) บุคคลดังกล่าวได้ไปเดินตลาดนัดบ้านไทรทอง ตลาดนัดบ้านนายาว อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และซื้อของร้านค้าในหมู่บ้าน โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา และดื่มเหล้าที่บ้าน ก่อนที่จะเดินทางกลับที่พักกรุงเทพฯ ในวันที่ 3 มกราคม 2564 โดยแวะเข้าปั๊มน้ำมันใน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี แวะตลาดบางน้ำเปรี้ยว และโลตัสบางน้ำเปรี้ยว อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ต่อมาทราบข่าวจากเพื่อนร่วมงานว่าป่วยเป็นโควิด-19 ด้วยความกังวลใจตนเองจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลรามคำแหง เมื่อวันที่ 4 มกราคม ซึ่งโรงพยาบาลได้แจ้งผลพบการตรวจพบเชื้อโควิด -19 และรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาต่อไป
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า หลังได้รับแจ้ง กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานไปยังงานสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเขาฉกรรจ์ ,ทีม CDCU อำเภอเขาฉกรรจ์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไทรทอง และองค์การบริหารส่วนตำบลพระเพลิง กำนันตำบลพระเพลิง และผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ดำเนินการสอบสวนโรคค้นหากลุ่มเสี่ยงที่บ้านแหลมทอง หมู่ 8 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว โดยทันที
พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นเพื่อนร่วมรับประทานอาหาร ดื่มสุรา และทำกิจกรรมร่วมกัน ผู้สัมผัสร่วมบ้าน รวมทั้งสิ้น 59 ราย ได้ดำเนินการกักตัวในพื้นที่ทั้งหมดและเก็บสิ่งส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 ทั้ง 59 ราย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ "ไม่พบเชื้อทั้ง 59 ราย" แต่ยังคงให้กักตัวโดยให้คำแนะนำ ให้สังเกตอาการ วัดอุณหภูมิเช้าเย็น หากพบอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้งนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไทรทอง ได้พ่นยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดพื้นที่บริเวณบ้านที่ผู้ป่วยพักอาศัยอยู่และทำความสะอาดจุดเสี่ยงแล้ว ล่าสุดที่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงมารายงานตัวและเข้ารับการตรวจเพิ่มอีก 10 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ