สถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสระแก้ว ประจำวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2564
สระแก้ว - ผู้ป่วยยืนยัน 67 ราย พบคลัสเตอร์ “แคมป์คนงานกัมพูชา” บ้านศิลารัตน์พัฒนา อ.โคกสูง และบ้านท่าวังหิน อ.วังน้ำเย็น หลังค้นหากลุ่มเสี่ยงในแคมป์ ทั้งจากเด็กนักเรียนและแรงงานถูกกฎหมายไปตรวจสุขภาพต่อประกันสังคม พบสภาพแวดล้อมไม่ถูกสุขลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค สาธารณสุขเฝ้าระวังออกค้นหากลุ่มเสี่ยงในชุมชน โรงเรียนเพิ่มเติม
นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่าวันนี้ (22 พฤศจิกายน 2564) มีผู้ป่วยยืนยัน 67 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดทั้งหมด รักษาหาย 102 ราย กำลังรักษา 740 ราย อาการหนัก 7 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดมาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุก เฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใน LQ /เรือนจำจังหวัด/ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่แยกรายอำเภอที่ อ.โคกสูง 21 ราย อ.เมืองสระแก้ว 16 ราย อ.วังน้ำเย็น 13 ราย อ.ตาพระยา 7 ราย อ.คลองหาด 6 ราย อ.อรัญประเทศ 3 ราย และอ.วัฒนานคร 1 ราย ทำให้จังหวัดสระแก้วมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 18,751 ราย รักษาหายสะสม 18,367 ราย เสียชีวิตสะสม 96 ราย
ภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดสระแก้วพบการติดเชื้อรายใหม่ใน 7 อำเภอ ทั้งกรณีอื่นๆ และคลัสเตอร์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มรอบ 7 วันใน 2 คลัสเตอร์เดิม ได้แก่ โรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองวังน้ำเย็น 1 ราย (สะสม 51 ราย) และ “แคมป์คนงาน บ้านศิลารัตน์พัฒนา หมู่ 6 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง” เชื่อมโยงจากเด็กนักเรียนกัมพูชา(ที่อาศัยอยู่ประเทศไทย) หลังจากโรงเรียนทัพพระยาพิทยาตรวจก่อนเปิดเทอมแล้วพบเชื้อ จึงค้นหากลุ่มเสี่ยงในแคมป์คนงานปลูกอ้อยพบผู้ติดเชื้อเป็นคนในครอบครัวและผู้ที่อยู่ในแคมป์เป็นชาวกัมพูชา แล้วยังกระจายไปสู่แคมป์อื่นๆ ที่บ้านอ่างศิลาอีก 3 แคมป์ จากการไปมาหาสู่กันและเด็กไปเล่นด้วยกัน
วันนี้ผลตรวจรอบสองในกลุ่มเสี่ยงพบติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย (สะสม 26 ราย) จากคนงานทั้งหมด 85 ราย ซึ่งเครือข่ายบริการสุขภาพอำเภอโคกสูงได้สั่งปิดแคมป์คนงาน 14 วัน และกักตัวกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด รวมทั้งออกค้นหากลุ่มเสี่ยงในชุมชนและในโรงเรียนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จากการตรวจสอบพบสภาพแวดล้อมภายในแคมป์ไม่ถูกสุขลักษณะทำให้เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สำหรับคลัสเตอร์ใหม่ “แคมป์คนงาน บ้านท่าวังหิน หมู่ 17 ต.วังน้ำเย็น” พบผู้ติดเชื้อ 8 ราย เชื่อมโยงจากแรงงานถูกกฏหมายชาวกัมพูชาคนหนึ่งไปตรวจสุขภาพเพื่อต่อประกันสังคมแล้วตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงได้ค้นหากลุ่มเสี่ยงเพิ่มในแคมป์ที่มีแรงงานทั้งหมด 20 คน พบเชื้อ 8 ราย (สะสม 16 ราย)
ช่วงนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร จำเป็นต้องใช้แรงงานซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานไปตามที่ต่างๆและรวมกลุ่มกันทำงาน หากมีผู้ติดเชื้อก็จะแพร่กระจายในกลุ่มคนงาน นายจ้าง เจ้าของสวน รวมทั้งอาจไปสู่ชุมชน อาทิ ร้านขายของชำในหมู่บ้าน การทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันโดยไม่ป้องกัน ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่และสัมผัสเชื้อได้ จึงขอให้เฝ้าระวังกลุ่มแรงงานในพื้นที่ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อขั้นสูงสุด ทั้งเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ใช้ร่วมกับคนอื่น หากสงสัยมีความเสี่ยงให้ตรวจด้วย ATK ทันที
สำหรับกรณีการติดเชื้อที่ต้องเฝ้าระวังที่ อ.ตาพระยา พบเด็กบ้านทับทิมสยาม03 ตรวจพบเชื้อ 4 ราย มีประวัติไปร่วมงานกฐินสำนักสงฆ์ในพื้นที่และไปโรงเรียนทับทิมสยาม03 มาแล้ว 2 สัปดาห์ จากการค้นหาพบกลุ่มเสี่ยงสูง 50 ราย จึงสั่งกักตัวที่บ้าน (Home Quarantine) และตรวจหาเชื้ออยู่ระหว่างรอผล